Abstract

รายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่า ไทยเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวัดจากมูลค่าตลาดและปริมาณการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) อีกทั้งยังมีตลาดตราสารหนี้ที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ยังมี 5 ประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข เพื่อเพิ่มศักยภาพของตลาดทุนไทยในสายตานักลงทุนทั่วโลก ได้แก่ การสร้างแบรนด์และการเป็นที่รู้จักในระดับโลก สภาพแวดล้อมทางนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อ ความน่าสนใจของสินทรัพย์ในตลาดทุน และการสร้างฐานนักลงทุนภาคสถาบันในประเทศ

3 เสาหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุนไทย ได้แก่

• สร้างความเชื่อมั่นและการรับรู้ (Rebuild confidence and visibility): ยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล โดยโปรโมทอย่างตรงจุด เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือและความครอบคลุม รวมทั้งเสริมมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในเขตพิเศษทางการเงิน
• ขจัดอุปสรรคและขยายการเข้าถึง (Remove frictions and expand access): แก้ไขข้อจำกัดด้านการไหลเวียนของเงินทุน ด้วยการสร้างระบบนิเวศที่กว้างและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น พัฒนาบุคลากรให้พร้อมรับอนาคต สร้างสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุน เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เชื่อมต่อกับตลาดอื่นให้ดีขึ้น ปรับปรุงกรอบการทำงานสำหรับผู้ออกหลักทรัพย์ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและการดำเนินงานของคนกลาง เพิ่มจำนวนนักลงทุนสถาบันในประเทศ และอื่น ๆ
• นำเสนอโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ (Offer attractive investment opportunities): มุ่งเน้นไปที่ภาคธุรกิจดาวรุ่ง เช่น การบริหารความมั่งคั่งในต่างประเทศ สินทรัพย์ดิจิทัล และการเงินเพื่อความยั่งยืน เพื่อดึงดูดเงินทุนใหม่ ๆ ให้เข้ามา

อนึ่ง การที่ไทยจะบรรลุเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกได้นั้น ต้องอาศัยการประสานงานร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการในตลาด คนกลาง ผู้ออกหลักทรัพย์ และนักลงทุน โดยมีกรอบการทำงานที่คาดการณ์ได้และเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยมารองรับ นอกจากนี้ การเดินหน้าควรเป็นไปตามแผนงานที่มีเป้าหมายชัดเจน มีการติดตามผลอย่างโปร่งใส และมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป