รายงานฉบับนี้มองอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลไทยว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนจะมีแนวโน้มคล่องตัวมากขึ้น โดยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่ออุดปัญหาช่องโหว่ในการใช้งาน อันจะส่งผลให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมใหม่และเปลี่ยนอุตสาหกรรมเก่าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการใช้งานในหลากหลายได้ นอกจากนี้ บล็อกเชนยังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนตลาดทุนโดยตรง ไม่เพียงแต่ทำให้ธุรกรรมทางการเงินมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเงินทุนเดิมเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย เมื่อพิจารณาร่วมกับแนวโน้มในอนาคต Megatrends ต่าง ๆ อาทิ Real World Asset Tokenisation, AI, Cloud-based, BaaS เชื่อได้ว่าเราจะพัฒนาไปสู่การเป็น Web 3.0 อย่างแท้จริงในไม่ช้า
ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับตัวทั้งทางฝั่งผู้เล่น ผู้ลงทุน ผู้กำกับดูแล และผู้พัฒนา อย่างไรก็ตาม ไทยยังขาดเทคโนโลยีต้นน้ำ นักพัฒนาบล็อกเชนยังมีน้อย ดังนั้น การสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโต ควรจะต้องสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน แรงงาน และการพัฒนาทักษะ เงินทุนสนับสนุน หรือนโยบายด้านภาษี ทั้งนี้ อนาคตที่พึงปรารถนาของตลาดทุนไทย สรุปได้ 3 ประการ ดังนี้
1. ตลาดทุน : จะมีประสิทธิภาพสำหรับทุกภาคส่วน ครอบคลุม บูรณาการเข้ากับการเงินแบบดั้งเดิมและเติบโตอย่างยั่งยืน และเชิงผลิตภัณฑ์จะเห็นการใช้งานจริงของการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน และผลิตภัณฑ์ไฮบริดที่มีความซับซ้อน
2. เศรษฐกิจโดยรวม : เติบโตอย่างมั่นคงปลอดภัย และลดการพึ่งพาต่างชาติ
3. กฎระเบียบและนโยบาย : เกิดสมดุลระหว่างการเรียนรู้และการคุ้มครอง ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่สร้างกำไรหากยังมีวัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจที่ดี มุ่งสู่การเป็น “Anticipatory Governance” หรือการกำกับดูแลเชิงรุก และมีกานำเทคโนโลยีมาใช้ในการกำกับดูแล (RegTech)