รายงานฉบับนี้ศึกษาแนวทางการพัฒนานโยบาย Digital Assets เพื่อให้ไทยสามารถคว้าโอกาสจากเทคโนโลยีกระจายศูนย์นี้ได้อย่างแท้จริง และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อตลาดทุนไทยให้มีความครอบคลุม บูรณาการ ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม มีผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยตอบโจทย์ต่อความต้องการให้เลือก พัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมและเสริมสร้างความมั่นคง ผ่านการบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้น ลดการพึ่งพาต่างประเทศและเสริมสร้างอธิปไตยทางดิจิทัล โดยแบ่งเป็น 2 เสาหลัก ดังนี้
ซึ่งเมื่อพิจารณารวมกันทั้ง 2 เสาหลักแล้ว พบว่า กลยุทธ์ที่ใช้ความพยายามน้อย แต่สามารถสร้างผลลัพธ์เป็นรูปธรรม หรือเห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุด (Quick-win) ที่น่าจะโฟกัสในช่วง 2-3 ปีนี้ คือ การขยายการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ Advanced ของรายย่อย ผ่านการขยายเกณฑ์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น
การเข้ามาของเทคโนโลยีกระจายศูนย์สามารถเปลี่ยนกระบวนการดำเนินธุรกิจ และก่อให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ แต่การจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เพื่อคว้าโอกาสนี้และขับเคลื่อนตลาดทุนไทย แนวทางการพัฒนาจึงมุ่งเน้น 2 เสาหลัก: การส่งเสริมอุตสาหกรรม (Industry Promotion) ควบคู่ไปกับการ พัฒนามาตรฐานการปกป้อง (Safeguarding Initiatives) ซึ่งเป็นการสร้างสมดุลทั้งคันเร่งและเบรก มาติดตามจากบทความนี้กันเลย
เทคโนโลยีกระจายศูนย์ (Decentralised Technology) จะช่วยให้ตลาดทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น เพราะช่วยให้ซื้อขายคล่องตัวขึ้น ไม่ต้องผ่านคนกลางเยอะ ต้นทุนก็ถูกลง แถมยังซื้อขายข้ามประเทศได้แบบทันทีทันใด แล้วคนทั่วไปก็เข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น อย่างการแบ่งสินทรัพย์เป็นหน่วยย่อย ๆ ก็ทำให้คนที่มีเงินน้อยก็ลงทุนได้ ตลาดทุนเรายังได้ประโยชน์จากการเสนอขายหุ้น IPO แบบใหม่ ที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงพวกโทเคนการลงทุนต่างๆ ที่สำคัญคือ เราจะซื้อขายพันธบัตรได้ตลอด 24 ชั่วโมง รู้ราคาทันที แล้วยังรู้ด้วยว่าใครผิดนัดชำระหนี้ แถมเทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้บริษัทหาเงินทุนได้ตรงกับความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ เทคโนโลยีกระจายศูนย์ยังจุดประกายอุตสาหกรรมและแนวคิดธุรกิจใหม่ ๆ ที่น่าจับตามอง ตัวอย่างเช่น Decentralised Finance (DeFi) ระบบธุรกรรมการเงินที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีการยืนยันตัวตนแบบกระจายศูนย์ หรือแนวคิดที่ขยายไปไกลกว่าผลิตภัณฑ์ลงทุนอย่าง Decentralised Physical Infrastructure Networks (DePIN) ซึ่งเป็นเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายศูนย์ เช่น โทรคมนาคม พลังงาน และขนส่ง ที่จะพลิกโฉมการจัดการและซื้อขายทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สรุป เทคโนโลยีเหล่านี้ยังเอื้อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรม และช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรม Digital Asset และภาคการเงิน Fintech นับเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่ประเทศ และเป็นการช่วยเหลือธุรกิจไทยหากทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าประเทศไทยควรใช้ประโยชน์และคว้าโอกาสจากเทคโนโลยีนี้เพื่อธุรกิจและเศรษฐกิจจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่เหมาะสมก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเต็มที่และได้รับการปกป้องอย่างยุติธรรม
คลิกเพื่อรับชม VDO เผยแพร่ความรู้: นโยบายสินทรัพย์ดิจิทัล ไทยวางเกณฑ์อย่างไรให้ประเทศได้ประโยชน์? | Thailand Future EP.5