ผลการทบทวนประเด็นปัญหาของสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยพบว่า การสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ลงทุน (Investor journey) เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ตลาดทุนไทยน่าลงทุน ปัจจุบันนักลงทุนเผชิญอุปสรรคตั้งแต่ขั้นตอนยืนยันตัวตนเพื่อเปิดบัญชีลงทุน (KYC/CDD) และการประเมินความเหมาะสมในการลงทุน (Suitability Test) กับหลายบริษัทที่ทำให้เกิดการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน รวมถึงการประชุมผู้ถือหุ้นแบบออนไลน์ที่ยังไม่มีมาตรฐานเดียวกัน และปัญหาการตีความการลงมติ “งดออกเสียง” และ “บัตรเสีย” แตกต่างกันในแต่ละบริษัท ซึ่งส่งผลต่อความโปร่งใสในการประชุม
การยืนยันตัวตนและทบทวนข้อมูลลูกค้า (KYC/CDD) เป็นมาตรการป้องกันฟอกเงินและทุจริต ขณะที่ Suitability Test คือกลไกคุ้มครองนักลงทุน แต่กระบวนการเหล่านี้ต้องทำซ้ำหลายครั้งกับทุกบริษัท ส่งผลให้เกิดความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายสูง ปัจจุบันระบบยืนยันตัวตนผ่าน NDID ช่วยอำนวยความสะดวกในธนาคาร จึงควรมีระบบเดียวกันสำหรับตลาดทุน รวมถึงพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลนักลงทุนเพื่อทำ Suitability Test และ KYC/CDD เพียงครั้งเดียวใช้ได้กับทุกบัญชี
สำหรับการประชุมออนไลน์ สำนักงาน ก.ล.ต. ควรกำหนดมาตรฐานและแนวปฏิบัติชัดเจน เพื่อให้บริษัทจัดประชุมในรูปแบบเดียวกัน ครอบคลุมรูปแบบไฮบริดและออนไลน์ พร้อมรายละเอียดการใช้เสียงหรือวิดีโอ การลงคะแนน และการถามตอบ ส่วนการตีความการลงมติ “งดออกเสียง” และ “บัตรเสีย” ควรมีประกาศและแนวปฏิบัติให้ชัดเจน พร้อมส่งหนังสือชี้แจงหลักเกณฑ์ให้ผู้ถือหุ้นล่วงหน้า เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน