Home > Publication & Database

CMRI Publication

เอกสารเผยแพร่

โครงการศึกษา Regulatory Guillotine เล่มที่ 1: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Kiratipong Naewmalee, Ph.D.

26 May 2025
SHARE

Abstract

โครงการศึกษาวิเคราะห์ ทบทวนกฎ ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ ที่เกี่ยวกับการอนุญาต และการดำเนินการอื่นนอกเหนือจากการอนุญาต เพื่อลดขั้นตอนหรือการดำเนินการที่ไม่จำเป็นหรือเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจในตลาดทุนไทย เล่มที่ 1: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

รายงานฉบับนี้สรุปผลการทบทวนประเด็นปัญหาจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบปัญหาและอุปสรรคด้านกฎเกณฑ์ที่ขัดขวางการพัฒนาตลาดทุนไทย โดยแบ่งออกเป็น 7 กลุ่มหลัก ดังนี้

  1. การกำกับดูแลที่เข้มงวดเกินความเสี่ยง (Over Regulate) เช่น ห้ามซื้อขาย Investment Token ในตลาดรอง ทั้งที่นักลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้ ซึ่งจำกัดนวัตกรรมใหม่ ๆ
  2. การกำกับดูแลที่ไม่เท่าเทียม เช่น การจดทะเบียน IPO ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเข้มงวด แต่การเข้าสู่ตลาดผ่าน Backdoor Listing กลับผ่อนคลายมากกว่า เสี่ยงต่อการหลีกเลี่ยงกฎระเบียบ
  3. กฎเกณฑ์ล้าสมัย บางข้อบังคับไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมนักลงทุนยุคใหม่ เช่น การห้ามผู้เยาว์เปิดบัญชีซื้อขายเอง แม้จะมีความรู้และเทคโนโลยีช่วยลงทุนได้อย่างปลอดภัย
  4. กฎไม่ชัดเจนหรือไม่ครอบคลุม ข้อกฎหมายบางประการยังคลุมเครือ เช่น สถานะของตลาดหลักทรัพย์ไทย หรือแนวทางรองรับธุรกิจ FinTech
  5. การกำกับดูแลซ้ำซ้อน ภาคธุรกิจต้องรายงานข้อมูลซ้ำซ้อนกับหลายหน่วยงาน เช่น ก.ล.ต. และ ธปท. ทำให้เกิดความล่าช้าและเพิ่มต้นทุน
  6. ขาดกฎเกณฑ์ในบางเรื่อง เช่น การบริหารเงินปันผลคงค้าง หรือการซื้อขายหุ้นต่างประเทศผ่านโบรกเกอร์ไทย ที่ยังไม่มีกฎชัดเจนรองรับ
  7. บทลงโทษไม่สมดุล โทษบางอย่างสูงเกินไปจนภาคธุรกิจไม่กล้าเสี่ยง ขณะที่บางกรณีกลับมีช่องโหว่ให้หลีกเลี่ยงได้โดยไม่ถูกลงโทษ


Research Bites

เงินปันผลคงค้าง” ปัญหาสะสม... ใครต้องรับภาระ?

“เงินปันผล” คือผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นได้รับจากการลงทุนในบริษัทจดทะเบียน เป็นสิทธิที่ชอบธรรมของผู้ลงทุน ซึ่งสะท้อนทั้งความมั่นคงทางการเงินของบริษัทและความคุ้มค่าในการถือครองหุ้นในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ในระบบตลาดทุนไทยกลับมีเงินปันผลจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ถูกจ่ายถึงมือผู้ถือหุ้น ทั้งที่ได้มีการประกาศจ่ายไปแล้ว ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “เงินปันผลคงค้าง” (Unclaimed Dividends) อันเนื่องมาจากไม่สามารถติดตามผู้รับเงินได้

สาเหตุของเงินปันผลคงค้าง ปัญหานี้มีรากเหง้ามาจากหลายปัจจัย อาทิ การที่ผู้ถือหุ้นไม่ได้แจ้งอัปเดตข้อมูลบัญชีธนาคารต่อบริษัทจดทะเบียน หรือเปลี่ยนที่อยู่โดยไม่แจ้งให้บริษัทจดทะเบียนทราบ รวมถึงกรณีที่ผู้ถือหุ้นเสียชีวิตและไม่มีผู้รับมรดกกลับมาแสดงสิทธิ นอกจากนี้ การเลือกวิธีรับเงินปันผลแบบเช็คมีความเสี่ยงสูงต่อการตกหล่น แม้ระบบ e-Dividend จะถูกพัฒนาและรณรงค์ใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีผู้ลงทุนจำนวนหนึ่งที่ยังใช้วิธีการรับเงินปันผลผ่านช่องทางเก่า เช่น เช็คหรือตั๋วแลกเงิน ซึ่งมีโอกาสตกค้างได้ง่ายกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

ผลกระทบที่ตามมา เงินปันผลคงค้างไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะต่อผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้รับเงินเท่านั้น หากแต่ยังสร้างภาระต่อบริษัทจดทะเบียนในการบริหารจัดการเงินที่ไม่สามารถเบิกจ่ายออกไปได้ ต้องแบกรับต้นทุนทางบัญชีใน การเก็บรักษาเอกสาร การตรวจสอบภายใน และความเสี่ยงด้านกฎหมายในระยะยาว นอกจากนี้ ยังส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพโดยรวมของระบบตลาดทุน เพราะเงินจำนวนมากถูกกักไว้ในลักษณะ “ทรัพย์จม” (Idle Resources) ไม่สามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการสูญเสียโอกาสทางการเงินทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค

รายงานการศึกษาดังกล่าวได้ให้ข้อเสนอเชิงนโยบายในการปรับระบบเพื่อปลดล็อกปัญหาดังกล่าว ดังนี้

  1. กำหนดนิยามทางกฎหมายของ “เงินปันผลคงค้าง” อย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถดำเนินการจัดการได้ตามขั้นตอนที่เป็นทางการ
  2. หากไม่สามารถติดต่อผู้ลงทุนได้ภายใน 10 ปี ให้โอนเงินปันผลคงค้างจากบริษัทจดทะเบียนไปยังหน่วยงานกลางเพื่อทำหน้าที่ดูแลและบริหารจัดการเงินประเภทนี้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจอยู่ภายใต้ตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือองค์กรกลางที่มีอำนาจตามกฎหมาย
  3. เพิ่มอำนาจหน่วยงานที่บริหารจัดการเงินปันผลคงค้างให้สามารถนำเงินดังกล่าวไปลงทุนได้
  4. ปรับปรุงประสิทธิภาพการโอนเงินปันผล โดยพิจารณายกเลิกทางเลือกสั่งจ่ายเช็คหรือดราฟท์ และสั่งจ่ายเงินปันผลผ่านช่องทาง e-Dividend เพียงอย่างเดียว

ข้อเสนอเหล่านี้คาดว่าจะช่วยประหยัดต้นทุนในการบริหารจัดการให้แก่บริษัทจดทะเบียนได้ปีละไม่ต่ำกว่า 1.6 ล้านบาท และลดความซับซ้อนในการจัดทำบัญชี ตลอดจนเพิ่มความโปร่งใสให้กับระบบการจ่ายเงินปันผลโดยรวม

แม้เงินปันผลคงค้างจะดูเป็นปัญหาสำหรับคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ก็สะท้อนถึงความไม่สมบูรณ์ของระบบตลาดทุนไทยในภาพรวม ดังนั้น การปรับปรุงระบบจัดการเงินปันผลคงค้างที่เหมาะสม นอกจากจะอำนวยความสะดวกให้แก่บริษัทจดทะเบียนหรือหน่วยงานกำกับดูแลแล้ว ยังช่วยเพิ่ม “ความเป็นธรรม” ให้กับผู้ลงทุน และ “ความมั่นคง” ต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย